Health

  • วิธีการรับมือ ฝุ่น PM 2.5
    วิธีการรับมือ ฝุ่น PM 2.5

    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝุ่น PM 2.5 มีระดับพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ตา และผิวหนัง เราจะปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ วันนี้จะมาแบ่งปันวิธีรับมือกับฝุ่นจิ๋ว PM 2.5

    PM 2.5 อันตรายแค่ไหน
    ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยมีขนาดเล็กว่า 2.5 ไมครอน หรือขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม โดยฝุ่น PM 2.5 นั้นเนื่องจากมีขนาดเล็กมากทำให้หลุดรอดการกรองจากจมูกและสามารถผ่านลงไปถึงถุงลมปอดได้เมื่อเราหายใจเข้าไป ก่อให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินหายใจ สามารถเข้าไปในระบบไหลเวียนเลือด และกระจายไปทั่วร่างกายได้ นอกจากนี้ในฝุ่น PM 2.5 มักพบสารก่อมะเร็ง และโลหะหนักที่เป็นอันตรายเกาะอยู่ด้วย

    อาการและผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5
    ระยะสั้น : ทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ อาการภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบ ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังอักเสบมีผื่นคันที่ผิวหนัง
    ระยะยาว : การทำงานของปอดแย่ลง เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย

    วิธีการรับมือกับ PM 2.5
    -ติดตามรายงานสภาพอากาศและระดับ PM 2.5 อย่างสม่ำเสมอ
    -ในบ้านหรืออาคารควรใช้เครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้
    -สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือ สวมหน้ากาก N95 เมื่อต้องออกจากบ้านหรืออาคาร
    -สวมแว่นกันลม กันฝุ่น สวมเสื้อแขนยาวมิดชิด
    -ลดเวลาการอยู่นอกบ้าน/อาคารโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อ PM 2.5 สูง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคปอด    โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง
    -หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง

    ข้อมูลโดย
    อ. พญ.เนาวรัตน์ ตั้งบำรุงธรรม ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

     

    ติดตามอ่านเรื่องเกี่ยวสุขภาพได้ที่  yamashita-hiromi.net

Economy

  • รายละเอียดกองทุนผู้สูงอายุ เปิดให้ ‘กู้เงิน’ ปลอดดอกเบี้ย
    รายละเอียดกองทุนผู้สูงอายุ เปิดให้ ‘กู้เงิน’ ปลอดดอกเบี้ย

    กองทุนผู้สูงอายุ พม. เร่งช่วยเหลือผู้สูงอายุประกอบอาชีพ เปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปกู้ยืมเงินทุนรายบุคคล-รายกลุ่ม ปลอดดอกเบี้ย
    กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินหน้าดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุในการประกอบอาชีพ กองทุนผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้เปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ รายบุคคลวงเงินไม่เกินคนละ 30,000 บาท รายกลุ่ม 5 คนขึ้นไปวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ย เน้นย้ำการดูแลผู้สูงอายุผ่านกองทุนผู้สูงอายุ เป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายด้านสวัสดิการผู้สูงอายุที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้สูงอายุได้นำเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยดังกล่าว มาเป็นเงินทุนหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ รวมถึงเป็นการหมุนเวียนสภาพคล่องทางการใช้จ่ายให้กับผู้สูงอายุ ทดแทนการเป็นหนี้นอกระบบ

    นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ผู้ร่วมกู้จำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน จะต้องมีผู้ค้ำประกัน การกู้ยืมทุกประเภทต้องชำระคืนเป็นรายงวด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย

    คุณสมบัติของผู้กู้
    มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
    มีความจำเป็นขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมประกอบอาชีพ
    มีความสามารถในการประกอบอาชีพ
    มีสภาพร่างกายแข็งแรงประกอบอาชีพได้
    มีปัจจัยในการสนับสนุนการประกอบอาชีพ
    มีสถานที่ประกอบอาชีพอยู่จังหวัดเดียวกันกับที่ยื่นขอกู้ยืม
    ไม่เป็นผู้ค้างชำระเงินกองทุนผู้สูงอายุ

    คุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน คือ
    มีอายุไม่เกิน 59 ปีบริบูรณ์
    เป็นผู้มีรายได้หรือเงินเดือนประจำ
    มีภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎร์อยู่จังหวัดเดียวกันกับผู้กู้ยืม
    ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้กู้ยืม ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้ค้ำประกันให้กับบุคคลอื่นที่ขอกู้ยืม


    เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง ได้แก่
    บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้กู้-ผู้ค้ำ)
    ทะเบียนบ้าน (ผู้กู้-ผู้ค้ำ)
    หนังสือรับรองเงินเดือนผู้ค้ำประกัน ใบสำคัญการสมรส หรือใบสำคัญการหย่า (ถ้ามี) ใบมรณะบัตรกรณีคู่สมรสเสียชีวิต (ถ้ามี) ใบเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)
    กรณีผู้ยื่นคำร้องมีอายุ 80 ปีขึ้นไป ควรมีใบรับรองแพทย์
    รูปถ่ายเต็มตัวขณะประกอบอาชีพ

    สามารถกู้ยืมเงินผ่านช่องทางออนไลน์เว็บไซต์กองทุนผู้สูงอายุผู้สูงอายุ olderfund.dop.go.th ผู้สูงอายุที่สนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 6100 กองทุนผู้สูงอายุ (กรมกิจการผู้สูงอายุ) กรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัด ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ทุกจังหวัด

    ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 มีผู้กู้ยืมเงินประกอบอาชีพที่ผ่านการอนุมัติ จำนวน 579 ราย และมีโครงการที่ขอรับการสนับสนุนผ่านการอนุมัติ จำนวน 8 โครงการ โดยกองทุนผู้สูงอายุจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนผู้สูงอายุให้มีศักยภาพ ความมั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมขององค์กรที่ดำเนินงานเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสนับสนุนผู้สูงอายุให้มีความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง

    ติดตามข่าวเศรษฐกิจได้ที่ yamashita-hiromi.net